Skip to Content

ระบบ OEE ที่สร้างอยู่บน Ignition IIoT Platform

OEE System บน Ignition คือระบบซอฟต์แวร์ที่ถูกพัฒนาบน Ignition Platform โดย Inductive Automation เพื่อช่วยโรงงานอุตสาหกรรมในการวัดผล วิเคราะห์ และปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องจักร (OEE) แบบ Real-time ผ่านการเชื่อมต่อข้อมูล IoT และการแสดงผลที่ชัดเจน ใช้งานง่าย และรวดเร็ว

OEE คืออะไร? คำนวณอย่างไร?

ระบบนี้ช่วยให้ผู้บริหารและทีมงานโรงงานสามารถติดตามสถานะการผลิตได้ทันที นำข้อมูลไปแก้ไขปัญหาคอขวดในสายการผลิต ลด downtime เพิ่มคุณภาพสินค้า และลดต้นทุนโดยรวมของการผลิต

ทำไมควรเลือก OEE System บน Ignition?

  • Real-time Dashboard:
    เห็นสถานะ OEE แบบทันที เพื่อแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที
  • IIoT Integration (MQTT, OPC-UA):
    เชื่อมต่อและจัดเก็บข้อมูลจากอุปกรณ์ IoT ได้ง่าย
  • Customizable Reports:
    ปรับแต่งรายงานและดาวน์โหลดไฟล์ Excel, PDF ตามที่ต้องการ
  • Historical Analysis:
    วิเคราะห์ข้อมูลย้อนหลังอย่างละเอียดเพื่อหาปัญหาและแนวทางแก้ไขอย่างแม่นยำ
  • รองรับมาตรฐาน ISA-95 และอุตสาหกรรม 4.0:
    ขยายและเชื่อมต่อระบบกับ MES, ERP หรือ Cloud Systems ได้ง่ายดาย

ตัวอย่างการใช้งานที่ประสบความสำเร็จ

โรงงานหลายแห่งทั่วโลกใช้งาน Ignition OEE System อย่างได้ผล เช่น:

  • โรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์: ลด downtime ได้ถึง 25% จากการใช้ระบบวิเคราะห์ OEE Real-time
  • โรงงานอาหารและเครื่องดื่ม: เพิ่มคุณภาพผลิตภัณฑ์ ลด Quality Loss ได้กว่า 15%
  • อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์: เพิ่ม Performance ลดการผลิตช้า (Performance Loss) ได้มากกว่า 20% โดยใช้ข้อมูลที่ได้จาก OEE System บน Ignition

สนใจ OEE System บน Ignition?

ติดต่อเราเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอ Demo ระบบฟรี!

YouTube Playlist - ระบบ OEE ของ Appomax

Video Series
ระบบ OEE ดีอย่างไร? 

บทนำสู่ระบบ OEE

สวัสดีครับ ในบทความนี้เราจะมาดูประโยชน์ของระบบ OEE (Overall Equipment Effectiveness) ของ Appomax ระบบที่ใช้สำหรับวัดประสิทธิภาพโดยรวมของอุปกรณ์โดยเฉพาะระบบที่ Appomax เอามาใช้ในการตอบโจทย์สำหรับลูกค้า

แรงบันดาลใจเบื้องหลัง

แรงบันดาลใจสำหรับวิดีโอและบทความนี้มาจากคำถามที่เราได้มาจากฝ่ายบริหารของลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตรายหนึ่ง ซึ่งถามถึง ROI หรือ Return on Investment ของระบบนี้ว่ามันจะคุ้มหรือไม่ และ Value for Money เป็นอย่างไร

Solution Architecture

เราจะสำรวจสถาปัตยกรรมของโซลูชัน OEE ของเรา ซึ่งรวมถึงการติดตั้งและการปรับใช้ระบบ การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์และเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการเก็บข้อมูลการทำงานของเครื่องจักร ระบบ OEE ของ Appomax ได้รับการออกแบบมาให้สามารถรวมข้อมูลจากหลายแหล่งและทำให้ข้อมูลนั้นเป็นระบบและสามารถใช้งานได้ทันที

ประโยชน์หลักสามประการ
  1. เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต: OEE ช่วยระบุปัญหาและปรับปรุงกระบวนการได้ตรงจุด
  2. ลด Downtime: OEE ช่วยวิเคราะห์และลดเวลาหยุดเครื่องจักรได้แม่นยำ
  3. ควบคุมคุณภาพการผลิต: ควบคุมคุณภาพและลดของเสียด้วย SPC
ประโยชน์ อย่างละเอียด

ติดตามและวัดผลการทำงานของเครื่องจักรในสามด้านหลักคือ Availability, Performance, และ Quality ซึ่งช่วยให้เรามีภาพรวมที่ชัดเจนของประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักร

การรวมข้อมูล OEE

การรวมข้อมูล OEE ให้ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญในการวิเคราะห์ ซึ่งรวมถึงการเก็บข้อมูลจากหลายแหล่งและการทำให้ข้อมูลนั้นเป็นระบบและสามารถใช้งานได้ 

การรวมข้อมูลอย่างถูกต้องช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาได้อย่างแม่นยำ

OEE Area Aggregate

การใช้ OEE Area Aggregate ช่วยให้เราสามารถดูภาพรวมของประสิทธิภาพการทำงานในพื้นที่ต่าง ๆ ของโรงงานและสามารถเปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่างพื้นที่เหล่านั้นได้ ซึ่งช่วยให้เราสามารถระบุพื้นที่ที่ต้องการการปรับปรุงและดำเนินการแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การวิเคราะห์แนวโน้ม OEE  

การวิเคราะห์แนวโน้ม OEE ช่วยให้เราสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงของประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักรในช่วงเวลาต่าง ๆ และสามารถระบุปัญหาที่เกิดขึ้นได้ การวิเคราะห์แนวโน้มช่วยให้เราสามารถวางแผนและดำเนินการปรับปรุงได้อย่างต่อเนื่อง  

 ตรวจสอบปัญหาจาก APQ

Availability, Performance, และ Quality (APQ) ช่วยให้เราสามารถตรวจสอบและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิตได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ การระบุปัญหาผ่าน APQ ช่วยให้เราสามารถจัดลำดับความสำคัญของปัญหาและดำเนินการแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว 

การติดตาม Downtime 

การติดตามเวลาทีเสียไปจาก Downtime เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งรวมถึงการระบุสาเหตุของการหยุดทำงานและการหาแนวทางในการลด Downtime

การติดตาม Downtime จะช่วยให้เราสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักรได้อย่างต่อเนื่อง

Pareto Downtime  

การวิเคราะห์ Pareto ของ Downtime ช่วยให้เราสามารถระบุปัญหาหลักที่ทำให้เกิดการหยุดทำงานของเครื่องจักร และสามารถจัดลำดับความสำคัญในการแก้ไขปัญหาเหล่านั้น การวิเคราะห์ Pareto ช่วยให้เราสามารถโฟกัสการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ที่มีผลกระทบมากที่สุด

ตรวจสอบ Downtime แบบเรียลไทม์

ช่วยให้เราสามารถตรวจสอบสถานะของเครื่องจักรและระบุปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทันที ซึ่งช่วยลดระยะเวลาของ Downtime และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ช่วยให้เราสามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว

แก้ไขการผลิตช้า (ค่า P ต่ำ)

การแก้ไขปัญหาการผลิตช้าช่วยให้เราสามารถปรับปรุงกระบวนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักรได้อย่างต่อเนื่อง

การจัดการคุณภาพต่ำ (Q)

การจัดการปัญหาคุณภาพต่ำ (Poor Quality - Q) ช่วยให้เราสามารถปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์และลดการผลิตซ้ำได้

ข้อดีของ SPC

Statistical Process Control - SPC ช่วยให้เราสามารถควบคุมและปรับปรุงกระบวนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ตัวอย่างแผนภูมิการควบคุม SPC

ดูตัวอย่าง SPC Control Chart ช่วยให้เราสามารถติดตามและวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงในกระบวนการผลิต

ใช้ OEE เพื่อการวัดผลและการสร้างแรงจูงใจ

ช่วยให้เราสามารถวัดผลการทำงานของเครื่องจักรและสร้างแรงจูงใจในการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานได้ การใช้ OEE ช่วยให้เราสามารถติดตามและวัดผลการทำงานของเครื่องจักรได้อย่างต่อเนื่อง 

ROI ของการใช้ระบบ OEE

การวิเคราะห์ ROI ของการใช้ระบบ OEE ช่วยให้เราสามารถประเมินความคุ้มค่าของการลงทุนในระบบ OEE และสามารถตัดสินใจในการลงทุนได้ดียิ่งขึ้น 

ระบบ OEE ของ Appomax ที่สร้างขึ้นบน Ignition แพลตฟอร์ม

ติดตามประสิทธิภาพเครื่องจักรแบบ Real-time ปรับแต่งได้ตามความต้องการ ช่วยให้ทีมบริหารเห็นภาพรวมชัดเจน, ลดเวลาหยุดเครื่อง และตัดสินใจได้รวดเร็ว เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสูงสุด

มั่นใจได้ใน Ignition เพื่อพัฒนาระบบ OEE

เลือก Ignition Platform สร้างระบบ OEE อย่างมั่นใจ ด้วย High Reliability, Global Standards และ Seamless Connectivity ที่บริษัทชั้นนำระดับโลกไว้วางใจ เหมาะสำหรับ Digital Factory ของคุณ

แพลตฟอร์มสำหรับ Digital Transformation ที่ครบถ้วน
การบรรลุเป้าหมายสูงสุดของ Digital Transformation
กระบวนการที่เกี่ยวข้องใน Digital Transformation


บทสรุป OEE System ROI