สวัสดีครับ ในบทความนี้ผมจะขอมาแนะนำ เพื่อเป็นตัวช่วยประกอบการตัดสินใจสำหรับหลายๆคนที่กำลังสนใจทำระบบ IIoT อยู่นะครับ ซึ่งประโยชน์ของ IIoT นั้น สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ เครื่องจักร และเซ็นเซอร์ในโรงงานเข้าสู่เครือข่ายอินเทอร์เน็ต เพื่อรวบรวม วิเคราะห์ และแสดงผลข้อมูลการผลิตแบบเรียลไทม์
เป้าหมายหลักของ IIoT คือ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลด Downtime ลดของเสีย และสร้างความสามารถในการตัดสินใจที่แม่นยำขึ้นจากข้อมูลจริง จากเป้าหมายหลักของ IIoT นั้น ส่งผลให้การวางระบบนี้เข้าไปในโรงงานของคุณ จะช่วยลดต้นทุนได้ไม่มากก็น้อยครับ วันนี้ผมจริงขอพาดูคนไปดู การวางระบบ IIoT เพื่อให้มี ROI (Return on Investment) ที่น่าพอใจครับผม
ขั้นตอนสำคัญสู่การวางระบบ IIoT ที่มีประสิทธิภาพ
การเริ่มต้นวางระบบ IIoT อาจดูเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและท้าทายสำหรับหลายๆ โรงงาน ในบทความนี้ เราจะมาไขข้อข้องใจและนำเสนอแนวทางที่เข้าใจง่าย เพื่อให้คุณสามารถเริ่มต้นวางระบบ IIoT ได้อย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จ
เริ่มต้นจาก "Pain Point" หรือปัญหาที่ต้องการแก้ไข
การวางระบบ IIoT ที่ดีและยั่งยืน ไม่ควรเริ่มต้นจากการไล่ตามเทคโนโลยีหรือซื้ออุปกรณ์โดยปราศจากเป้าหมายที่ชัดเจน แต่ควรเริ่มต้นจากการวิเคราะห์ปัญหาหรือความท้าทายที่โรงงานกำลังเผชิญอยู่ เช่น
- เครื่องจักรหยุดทำงานบ่อย ทำให้เสียเวลาและกระทบต่อการผลิต
- กระบวนการจดบันทึกข้อมูลเป็นไปอย่างล่าช้าและมีโอกาสเกิดข้อผิดพลาด
- ไม่สามารถติดตามการใช้พลังงานได้อย่างแม่นยำ ทำให้ไม่สามารถควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อคุณสามารถระบุ "Pain Point" หรือปัญหาที่ต้องการแก้ไขได้อย่างชัดเจนแล้ว คุณจะสามารถเลือกใช้เทคโนโลยีและโซลูชัน IIoT ที่เหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างตรงจุด
เริ่มต้นจากจุดเล็กๆ ที่สร้างผลกระทบสูง
การวางระบบ IIoT ไม่จำเป็นต้องเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ครอบคลุมทั้งโรงงานในคราวเดียว การเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ ที่สร้างผลกระทบสูง เช่น เครื่องจักรที่มีต้นทุนการดำเนินงานสูง หรือสายการผลิตที่มีผลต่อคุณภาพหรือปริมาณการผลิต
นอกจากนี้ การเลือกใช้โซลูชัน IIoT ที่มีความยืดหยุ่นและสามารถขยายต่อได้ (Scalable) เช่น การใช้ Edge Device หรือ Gateway ที่รองรับโปรโตคอลการสื่อสารที่หลากหลาย (เช่น Modbus RTU/TCP, OPC UA, MQTT) จะช่วยให้คุณสามารถเพิ่มอุปกรณ์และขยายระบบ IIoT ได้อย่างง่ายดายในอนาคต
ใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์เดิมให้คุ้มค่าที่สุด
การวางระบบ IIoT ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่ทั้งหมด หากเครื่องจักรของคุณมี Programmable Logic Controller (PLC) อยู่แล้ว คุณสามารถดึงข้อมูลจากเครื่องจักรผ่านพอร์ตการสื่อสารที่มีอยู่ เช่น RS-485 หรือ Ethernet ได้
ในกรณีที่เครื่องจักรไม่มี PLC คุณก็สามารถติดตั้งเซ็นเซอร์เพิ่มเติมและเชื่อมต่อกับ IIoT Gateway เพื่อดึงข้อมูลไปใช้งานได้เช่นกัน วิธีนี้จะช่วยให้คุณสามารถลดต้นทุนในการวางระบบ IIoT ได้อย่างมาก
ข้อมูลต้องสามารถนำไปใช้งานได้จริง
การเก็บข้อมูลได้เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ ข้อมูลที่ได้จากระบบ IIoT จะต้องสามารถนำไปใช้งานได้จริง เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจและปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานของโรงงาน
ข้อมูลควรถูกนำเสนอในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานแต่ละกลุ่ม เช่น
- Dashboard แบบเรียลไทม์ สำหรับวิศวกรและผู้ปฏิบัติงาน เพื่อติดตามสถานะการทำงานของเครื่องจักรและกระบวนการผลิต
- ระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติผ่าน Line หรือ Email สำหรับหัวหน้างาน เพื่อให้สามารถรับรู้และตอบสนองต่อปัญหาได้อย่างทันท่วงที
- สรุปรายงานอัตโนมัติ สำหรับผู้บริหาร เพื่อให้สามารถเห็นภาพรวมของประสิทธิภาพการดำเนินงานและใช้ในการวางแผนกลยุทธ์
ลงทุน IIoT อย่างไรให้เห็นผลตอบแทนชัดเจน
การลงทุนในเทคโนโลยี IIoT เป็นการตัดสินใจที่สำคัญสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม และสิ่งสำคัญที่สุดคือการทำให้มั่นใจว่าการลงทุนนั้นคุ้มค่าและสร้างผลตอบแทนที่ชัดเจน (Return on Investment หรือ ROI) นี่คือแนวทางที่จะช่วยให้คุณวางแผนและดำเนินการระบบ IIoT เพื่อให้ได้ ROI ที่ดีที่สุด:
โฟกัสที่จุดที่มีผลกระทบต่อ "ค่าใช้จ่าย" หรือ "รายได้" ของโรงงาน
ลด Downtime = ผลิตได้มากขึ้น
การลดเวลาที่เครื่องจักรหยุดทำงาน (Downtime) หมายถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและปริมาณผลผลิต ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อรายได้ของโรงงาน
ลดพลังงาน = ลดต้นทุนทันที
การติดตามและควบคุมการใช้พลังงานอย่างแม่นยำ ช่วยให้โรงงานสามารถลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็นและลดต้นทุนด้านพลังงานได้อย่างมีนัยสำคัญ
ลดงานจดบันทึก = ลดค่าแรงซ้ำซ้อน เพิ่มเวลาไปทำอย่างอื่น
การใช้ระบบ IIoT เพื่อเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลโดยอัตโนมัติ ช่วยลดภาระงานของพนักงานในการจดบันทึกข้อมูลด้วยตนเอง ทำให้พนักงานมีเวลามากขึ้นในการทำงานที่มีมูลค่าสูงกว่า
ข้อมูลแม่นยำ = ลดของเสียจากการตัดสินใจผิดพลาด
ข้อมูลที่แม่นยำและเป็นปัจจุบัน ช่วยให้ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานสามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดโอกาสในการตัดสินใจผิดพลาดที่อาจนำไปสู่การสูญเสียหรือของเสีย
วางแผนเป็นเฟส และตั้งเป้าคืนทุนในระยะสั้น
- แนะนำให้วางแผนการติดตั้ง IIoT เป็นเฟส โดยเริ่มต้นจากโครงการขนาดเล็กที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ในระยะสั้น
- ตั้งเป้าหมายให้เฟสแรกของการติดตั้ง IIoT สามารถคืนทุนได้ภายใน 6-12 เดือน เพื่อพิสูจน์ให้ฝ่ายบริหารเห็นถึงความคุ้มค่าของการลงทุน
- เมื่อเฟสแรกประสบความสำเร็จและสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจแล้ว จึงค่อยขยายระบบ IIoT ไปยังส่วนอื่นๆ ของโรงงานในเฟสต่อไป
การวางแผนอย่างรอบคอบและมุ่งเน้นที่การสร้าง ROI ที่ชัดเจน จะช่วยให้โรงงานสามารถใช้ประโยชน์จาก IIoT ได้อย่างเต็มศักยภาพ และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในระยะยาว
คำนวณ ROI ของระบบ IIoT อย่างไร?
การคำนวณ ROI ใช้สูตรพื้นฐานดังนี้
สิ่งที่ต้องรู้
ต้นทุนลงทุน
- ค่าอุปกรณ์ (Gateway, Sensor, Software)
- ค่าติดตั้ง
- ค่าอบรมทีมงาน
- ค่าบำรุงรักษา
ผลประโยชน์ที่วัดได้เป็นตัวเงิน
- ค่า Downtime ที่ลดลง (คิดเป็นต้นทุนต่อชั่วโมง)
- ค่าไฟที่ลดลง (kWh x ค่าไฟ)
- เวลาแรงงานที่ลดลง (ชั่วโมง x ค่าจ้างรายชม.)
- ของเสียที่ลดลง (เปอร์เซ็นต์ x มูลค่าผลิตภัณฑ์)
วิธีวัดผลเพื่อผูกกับ ROI
ควรกำหนดตัวชี้วัดก่อนและหลังติดตั้งระบบ
ตัวชี้วัด | ก่อนติดตั้ง | หลังติดตั้ง | ความเปลี่ยนแปลง |
---|---|---|---|
Downtime ต่อเดือน | 20 ชั่วโมง | 8 ชั่วโมง | -60% |
พลังงานเฉลี่ย/ไลน์ | 1,000 kWh | 850 kWh | -15% |
เวลาเก็บรายงาน | 3 ชม./วัน | 30 นาที/วัน | -83% |
ของเสีย | 4% | 2.5% | ลดลง 1.5% |
จากนั้นนำความเปลี่ยนแปลงทั้งหมดมาแปลงเป็นตัวเงิน เพื่อวิเคราะห์ว่าใช้เวลากี่เดือนในการคืนทุน (Payback Period)
ตัวอย่างจำลอง: โรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์
สถานการณ์เริ่มต้น:
- มีไลน์ผลิต 1 ไลน์ ที่มักมี Downtime เฉลี่ย 20 ชม./เดือน
- มีพนักงานจดบันทึกข้อมูลการผลิต ใช้เวลา 3 ชม./วัน
- ไม่มีข้อมูลพลังงานที่แยกตามเครื่อง
โซลูชัน IIoT:
- ติด Edge Computing ,Gateway เชื่อมกับ PLC, Power Meter และ Sensor
- ดึงข้อมูลแบบเรียลไทม์ ผ่าน SCADA,MES
- วิเคราะห์การทำงานด้วย ระบบ OEE
- สร้าง Dashboard และแจ้งเตือนทันทีเมื่อเครื่องหยุด
ต้นทุนการลงทุน:
- อุปกรณ์ + Software = 250,000 บาท
- ค่าติดตั้งและอบรม = 50,000 บาท
- รวม = 300,000 บาท
ผลประโยชน์:
- ลด Downtime ได้ 12 ชม./เดือน → เพิ่มการผลิต (คิดเป็น 6,000 บาท/ชม.) = 72,000 บาท/เดือน
- ประหยัดพลังงาน 15% (จากค่าไฟ 100,000 บาท/เดือน) = 15,000 บาท/เดือน
- ลดเวลาทำรายงาน = 3 ชม./วัน x 25 วัน = 75 ชม./เดือน (x ค่าจ้าง 80 บาท/ชม.) = 6,000 บาท/เดือน
รวมผลประโยชน์ = 93,000 บาท/เดือน
คืนทุนในเวลา ≈ 3.2 เดือน
หลังจากนั้นทุกเดือนคือ "กำไรที่วัดค่าได้"
สรุป
การเริ่มต้นระบบ IIoT ที่คุ้มค่า ROI ไม่ใช่เรื่องของการ “ลงทุนมาก = ได้ผลมาก”
แต่เป็นเรื่องของ “วางแผนอย่างมีเป้าหมาย” เริ่มจากจุดเล็กที่สร้างผลลัพธ์จริง และมีระบบในการวัดผลที่ชัดเจน
หากคุณกำลังเริ่มต้น หรือยังไม่มั่นใจว่าจะเริ่มจากตรงไหนในโรงงานของคุณ — การทำ PoC (Proof of Concept) ขนาดเล็ก พร้อมการวัดผล จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด